(31 มี.ค.63) นายชัยสิทธิ์ พานิชพงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้เปิดเผยว่า มีรายงานจากเจ้าหน้าที่เรื่องมัสยิดในอำเภอยะหากว่า 22 แห่ง ยังมีการละหมาดในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยก่อนวันศุกร์ที่ผ่านมาได้มีการติดประกาศเรื่องการยกเลิกการละหมาดจากสำนักจุฬาราชมนตรี ที่ลงนามโดยจุฬาราชมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัด ไปก่อนแล้วนั้น
โดยในการประชุมปลัดอำเภอให้ข้อมูลกล่าวอ้างถึงอิหม่ามในบางมัสยิดให้เหตุผลว่า นึกว่าการห้ามละหมาดวันศุกร์จะเริ่มในวันศุกร์หน้า ในบางมัสยิดก็ขัดขืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ให้ นายนิมะ มะกาเจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเข้าตรวจสอบ โดยมีผู้กำกับการตำรวจ สภ.ยะหา และ เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจยะลา รวมกับคณะกรรมการอิสลามจังหวัดยะลา เพื่อร่วมหารือต่อไป
ทั้งนี้ในพื้นที่อำเภอยะหา พบผู้ป่วยโควิต-19 แล้วจำนวน 3 คน ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 10 คน ผู้ถูกสัมผัสโดยผู้ป่วย 16 คน และมีผู้เฝ้าระวังอาการครบ 14 วันแล้ว 55 คน โดยผู้ป่วยโควิตบางราย เป็นบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลๆ หนึ่งในอำเภอยะหา ส่งผลให้ต้องปิดให้บริการอยู่ในขณะนี้
ส่วนที่ โรงพยาบาลยะลา มีเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน เป็นเคสที่ส่งต่อมาจากยะหาเมื่อวาน มีโรคประจำตัว เบาหวาน ไตวายเรื้อรัง ประวัติการเดินทางไปร่วมงานแต่งงานที่มาเลเซียเมื่อวันที่ 7 มี.ค.63 เริ่มป่วย 20 มี.ค. 63 และวันที่ 23 มี.ค. มารักษา ที่โรงพยาบาลยะหา เป็นผู้ป่วยนอก อาการไม่ดีขึ้น วันที่ 27 มี.ค. เข้ารับการรักษา ด้วยไข้ 39.1 ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ มีปอดอักเสบโรงพยาบาลยะหา ส่งต่อมาที่ โรงพยาบาลยะลา เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 63 เสียชีวิต 31 มี.ค. 63 เวลา 08.15 น.
ด้าน นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา ได้เร่งติดตั้งตู้และระบบภายใน เพื่อติดตั้ง เครื่องเทอร์โมสแกนให้แก่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา ลดภาระงานและกำลังคน เพื่อไปใช้สู้โควิด 19 ให้แก่ชาวยะลาต่อไป