กรมการสารวัตรทหารบก จัดกิจกรรม วันทหารสารวัตร ครบรอบปีที่ ๑๑๓ ในวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๓

กรมการสารวัตรทหารบก จัดกิจกรรมวันทหารสารวัตร ครบรอบปีที่ ๑๑๓ ในวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๓

ทหารสารวัตรถือกำเนิดในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่๕ โดยในปี พ.ศ. ๒๔๔๐ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้าจิระประวัติวรเดช ทรงสำเร็จวิชาการทหารแผนปัจจุบันจากประเทศในทวีปยุโรป และเสด็จกลับมารับราชการในกระทรวงกลาโหม พระองค์ทรงปรับปรุงกิจการทหาร โดยจัดให้มีการจัดเหล่าทหารต่างๆตามแบบอย่างในต่างประเทศ โดยสามารถเรียกได้ว่าเป็นกำลังกองทัพบก อีกทั้งยังได้จัดให้มีการฝึกและเปลี่ยนการใช้คำบอกคำสั่งต่างๆจากภาษาต่างประเทศมาเป็นภาษาไทย มีการกำหนดเครื่องแบบและเครื่องหมายสังกัดเป็นระเบียบโดยแน่ชัด รวมทั้งได้ทรงตราข้อบังคับระเบียบและวินัยซึ่งทหารจะต้องปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด

ด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นต้องมีสารวัตรทหารบก เพื่อ ตรวจตรา กำกับ ดูแล ระเบียบวินัยของทหารภายในบริเวณโรงอาหาร แต่ขนาดนั้น ยังไม่ได้มีการจัดตั้งเหล่าทหารสารวัตรขึ้น อย่างเป็นรูปประธรรม คงดำเนินการโดยให้แต่ละหน่วยจัดหมู่ตรวจออกไปผลัดเปลี่ยนกันตรวจตราบริเวณ ตลาด ชุมชน เพื่อดูแลให้เกิดความเรียบร้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกวดขันทหารให้อยู่ในระเบียบ วินัย อันดี และได้ตั้งให้ผู้ดำรงตำแหน่งสารวัตรใหญ่ทหารบกเป็นผู้ควบคุม กำกับดูแลการปฏิบัติในเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๕๐ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้าจิระประวัติวรเดช ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกรมการยุทธนาธิการ ได้ออกข้อบังคับ กำหนดหน้าที่สารวัตรใหญ่ทหารบกขึ้นเป็นครั้งแรก ดังนั้นกองทัพบกจึงอนุมัติให้วันที่ ๒๗ มีนาคมของทุกปี เป็นวันทหารสารวัตร เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ข้าราชการเหล่าทหารสารวัตร ในอันที่จะสร้างเสริมความสามัคคี และเป็นศิริมงคลต่อเหล่าทหารสารวัตรสืบต่อไป

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กิจการสารวัตรทหาร ได้รับการปรับปรุงมาโดยตลอดจนถึงปีพุทธศักราช ๒๔๖๗ ได้กำหนดให้ทุกมณฑลทหารบกจัดให้มี สารวัตรทหารขึ้น โดยมีหน้าที่ตรวจตราภายในท้องที่ของแต่ละมณฑล ซึ่งสารวัตรทหารเหล่านั้นประดับ ปลอกแขนสีแดงที่แขนข้างขวา และมีจักรวสีทองขนาดย่อมติดทับปลอกแขน จึงเป็นเหตุให้ได้รับสมญานามว่า พวกทหารแขนแดง ซึ่งต่อมาได้พัฒนาเป็นปลอกแขนสีแดงและมีอักษรคำว่า “สห” สีขาว ติดอยู่ดังเช่นทุกวันนี้ ต่อมาปี พ.ศ. ๒๔๘๔ ได้เกิดสงครามมหาเอเชียบูรพา หรือสงครามโลกครั้งที่ ๒ ขึ้น จึงได้มีการจัดหน่วยสารวัตรผสมขึ้น โดยมีทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ และตำรวจ เพื่อระงับเหตุการณ์ทั่วไปในเขตจังหวัดพระนคร และธนบุรี ให้เกิดความสงบเรียบร้อย ซึ่งการจัดหน่วยสารวัตรผสมดังกล่าว นับได้ว่าเป็นจุดกำเนิดของสารวัตรทหาร ในปัจจุบันกรมการสารวัตรทหารบก ได้ดำเนินการพัฒนาเหล่าทหารสารวัตรให้มีความเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นโดย ได้มีการจัดตั้งหน่วยทหารสารวัตรระดับ กองพัน ให้กับทุกข์กองทัพภาคของกองทัพบกเรียบร้อยแล้ว และได้พัฒนาระบบ การเรียน การสอน และการฝึก ของเหล่าทหารสารวัตรให้มีมาตรฐาน และมีความทันสมัยเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่มี การใช้เจ้าหน้าที่สารวัตรทหารบกในทุกภารกิจสำคัญของกองทัพ

๒๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓ เนื่องในโอกาสวันทหารสารวัตร ครบรอบปีที่ 113 เพื่อร่วมระลึกถึง พระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้าจิระประวัติวรเดช ซึ่งเป็นผู้ประทานกำเนิดเหล่าทหารสารวัตร หน่วยทหารสารวัตรทั่วประเทศได้พร้อมใจกันจัดกิจกรรมต่างๆ เช่นการบริจาคโลหิต การพัฒนาพื้นที่สาธารณประโยชน์ การจัดกิจกรรมเดือนแห่งการรณรงค์กวดขันวินัยทหาร เพื่อตรวจขันวินัยทหารในพื้นที่รับผิดชอบ ในเรื่อง การแต่งกาย การแสดงความเคารพ การขับขี่ยานพาหนะ และปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมืองของกำลังพลและครอบครัวเป็นต้น โดยในส่วนของกรมการสารวัตรทหารบก พลตรีวัชชรินทร์ สุวรรณรินทร์ ได้จัดให้มี กิจกรรมในวันทหารสารวัตร ภายในกรมการสารวัตรทหารบก โดยมีพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำในหน่วยงาน พระพุทธรูปประจำกรมการสารวัตรทหารบก พระบรมรูปและพระบรมสาทิสลักษณ์ รัชกาลที่ 5 ท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งอยู่ภายในดวงตราประจำของหน่วยงานด้านหน้าอาคารใหญ่ องค์พระนารายณ์และศาลตายาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหน่วยงาน และยังจัดให้มีพิธีมอบทุนการศึกษา โดยได้นำเงินที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท ห้างร้านและผู้ใจบุญ มามอบเป็นทุนการศึกษาให้กับบุตรข้าราชการของเหล่าทหารสารวัตร ในหน่วยทหารสารวัตร ทั้งส่วนกลางส่วนภูมิภาคและส่วนกำลังรบ เพื่อเป็นทุนการศึกษาให้กับบุตรธิดาและกำลังพลเหล่าทหารสารวัตรทั่วประเทศ

Related posts