(1 เม.ย. 63) นายฐากูร อินทรชม ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า จากผลการชันสูตรเบื้องต้น แพทย์สันนิษฐานว่าชายอายุ 57 ปี คนดังกล่าวเสียชีวิตจากโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นโรคประจำตัว แต่จากการตรวจคัดกรองพบว่าชายคนดังกล่าวติดเชื้อโควิด-19 ด้วย โดยกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะแจ้งผลเป็นทางการมาอีกครั้ง
เบื้องต้น รฟท.ได้สั่งการให้มีการกักตัว 14 วัน และรอตรวจคัดกรอง สำหรับเจ้าหน้าที่ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยทั้งหมด ได้แก่ พนักงานรถนอน พนักงานขายตั๋วที่สถานีบางซื่อ และตำรวจรถไฟ รวมทั้งสั่งให้มีการนำรถขบวนดังกล่าวไปกักเป็นเวลา 2 วันเพื่อทำการพ่นยาฆ่าเชื้อ และอบฆ่าเชื้อ รวมทั้งให้นำเครื่องนอน หมอน ผ้าห่ม ผ้าปูเตียงและอุปกรณ์ที่สัมผัสกับตัวผู้ป่วยไปฆ่าเชื้อทั้งหมดแล้ว
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตรายนี้ เป็นชาว อ.สุไหงโกลก มีประวัติเพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศปากีสถาน ได้เดินทางไปซื้อตั๋วรถไฟเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันที่ 29 มี.ค. ที่สถานีบางซื่อเพื่อเดินทางไปยัง ใน อ.สุไหงโกลก โดยได้มาขึ้นรถในวันที่ 30 มี.ค.โดยได้โดยสารตู้ที่ 4 ทราบว่าภายหลังจากรถไฟทำขบวนมาจนถึงบริเวณสถานีหัวหินชายคนดังกล่าวมีอาการไม่สบาย และอาเจียน
เจ้าหน้าที่ได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองมาตรวจวัดไข้ พบว่าชายคนดังกล่าวไม่มีไข้ เพราะปรอทวัดได้อุณหภูมิ 36 องศา โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำว่า ควรพักการเดินทางก่อน เพื่อพักผ่อนให้ร่างกายดีขึ้นแล้วค่อยเดินทางต่อ แต่ผู้โดยสารคนดังกล่าว ยืนยันที่จะเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทาง
แต่ระหว่างที่รถไฟทำขบวนไปถึงบริเวณ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารคนดังกล่าวได้เดินเพื่อไปเข้าห้องน้ำ แต่กลับล้มลงและเสียชีวิต บริเวณหน้าห้องน้ำบนรถไฟ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ประสานให้โรงพยาบาลทับสะแกมารับศพ และนำตัวอย่างของผู้โดยสารคนดังกล่าวไปตรวจหาเชื้อโควิด ล่าสุด สสจ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้แจ้งผลชันสูตรศพเบื้องต้นว่าพบติดไวรัสโควิด-19 ด้วย